เตรียมตัวและเตรียมข้อมูลให้พร้อม เช่น วันที่นัดสัมภาษณ์ เวลา สถานที่ ชื่อผู้ติดต่อ เป็นต้น ควรจะสอบถามมาให้ละเอียด เพื่อป้องกันความเข้าใจผิดในการสื่อสาร และรักษาสุขภาพ ระมัดระวังเรื่องการกิน การพักผ่อน หลายคนพลาดท่าเรื่องการกินมาแล้ว เช่น ท้องเสีย เป็นไข้ ซึ่งอาจเกิดจากความวิตกกังวล ควรลดความวิตกกังวล ทบทวนความรู้ ปรึกษาผู้ที่มีประสบการณ์ เตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อม
ควรเตรียมอะไรไปบ้างดูรายละเอียดให้ชัดเจน ว่าต้องเตรียมอะไรไปบ้างปกติจะเตรียมหลักฐานต่าง ๆ ที่สำคัญ ซึ่งเขาจะขอเอกสารต่างๆ ดังนี้ สำเนาใบวุฒิการศึกษา สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาบัตรประชาชน ใบผ่านการฝึกอบรมหรือใบผ่านงานต่างๆ ตลอดจนใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล ใบผ่านการเกณฑ์ทหาร รูปถ่าย ฯลฯ ต้องเตรียมมาให้พร้อม แต่อย่าเยอะจนพะรุงพะรัง และไม่ควรนำเอกสารมาให้ฝ่ายบุคคลสำเนาให้ เพราะจะแสดงถึงความไม่เตรียมพร้อมในการมาสัมภาษณ์งาน
เตรียมในเรื่องของการแต่งกายเป็นเรื่องสำคัญที่มองข้ามไปไม่ได้เช่นกัน เพราะการแต่งกายก็ถือเป็นการแสดงออกถึงการให้เกียรติเขาด้วยเหมือนกัน ดังนั้นคุณควรจะเลือกใส่ชุดที่สุภาพ สะอาด และดูดี เช่น คุณผู้ชายอาจใส่เสื้อเชิ้ตสีพื้น สอดเสื้อไว้ในกางเกง และใส่รองเท้าหุ้มส้น ส่วนคุณผู้หญิงก็อาจใส่ชุด ทำงานที่ดูเรียบร้อย ขอแนะนำว่าใส่ประโปรงจะดูเรียบร้อยมากยิ่งขึ้น ส่วนน้องๆ ที่เพิ่งจบออกมาก็จะควรจะใส่ชุดทำงานด้วย เพื่อเป็นการฝึกการแต่งกาย ไปด้วยในตัว
เตรียมเส้นทางการเดินทางเป็นสิ่งที่ควรอย่างยิ่ง เพราะเป็นที่ทราบดีว่า การ จราจร ของบ้านเมืองเรานั้น ไม่แน่นอนเลยจริงๆ ดังนั้นคุณจึงควรวางแผน ในเรื่อง ของ เดินทางให้ดี สอบถามให้แน่ชัดในเรื่องของ ที่ตั้งบริษัท สายรถเมล์ หรือรถไฟฟ้า ที่ผ่าน และถ้าไม่แน่ใจก็ ขอให้ เขาแฟกซ์ แผนที่มาก็ได้ และเพื่อความ ไม่ประมาท คุณอาจลองเดินทาง ล่วงหน้าก่อนวันจริงเพื่อกะระยะ เวลาการเดินทาง ไว้ล่วงหน้า โดยเมื่อถึงวันจริงคุณควร ไปก่อนเวลานัดสัมภาษณ์อย่างน้อย 15 นาที และหากติดธุระจำเป็นจริงๆ ควรโทรแจ้งขอเลื่อนการสัมภาษณ์ก่อนวันสัมภาษณ์จริง 1 วัน
เมื่อถูกเรียกตัวเข้าสัมภาษณ์ ก่อนเข้าห้องสัมภาษณ์ลองหายใจลึก ๆ แต่อย่ามากอาจหน้ามืดก่อน ถ้ามีประตูควร เคาะ ประตู เสียก่อน ตามมารยาท ยกมือวันทาด้วยท่าทางสุภาพ ควรไหว้ประธานหรือผู้ที่มีตำแหน่งสูงสุดเพียงผู้เดียวถ้านั่งอยู่หลายคน โดยทั่วไปมัก นั่ง ตรงกลาง เรื่องนี้ ใช้ไหวพริบเองก็แล้วกัน อย่าเพิ่งนั่งจนกว่าจะได้รับอนุญาต หรือ คำเชิญจากผู้สัมภาษณ์ กล่าวขอบคุณครับแล้วนั่งให้หัวใจเต้น เบาลง จงมีสายตาท่าทางที่เป็นมิตร ห้ามหยิ่ง อันนี้แน่อยู่แล้วโดยธรรมชาติ
เมื่อได้ฟังคำถามคำแรกจงตอบคำถามด้วยความมั่นใจ ฉะฉาน ชัดเจน พูดให้เป็นธรรมชาติด้วยเสียงที่พอเหมาะอย่าเบา หรือดังจนเกินไป จงพูดเท่าที่จำเป็นอย่าคุยโม้โอ้อวด หรือถ่อมตนมากเกินไป จงพูดในสิ่งที่เป็นความจริงและสิ่งที่เกี่ยวข้องกับคำถามและเป็นประโยชน์ให้มากที่สุด
ถ้าพบกับคำถามที่ตอบไม่ได้จงอย่าอ้างว่าไม่ได้เรียนมา และห้ามแสดงกริยาที่หงุดหงิดหรืออารมณ์เสีย เขาอาจจะอยากลองดูไหวพริบในการแก้ปัญหาของคุณ อันนี้ห้ามตอบมั่วเด็ดขาด ยอมรับซะว่าไม่ทราบจริง ๆ และจะไปสืบค้นหาคำตอบภายหลัง
การใช้วาจาในระหว่างสัมภาษณ์ ควรใช้คำพูดสุภาพและให้เกียรติผู้สัมภาษณ์ ไม่ควรก้าวร้าว อย่าพูดคำพูดที่ไม่แน่ใจบ่อย ๆ หรือ ภาษาที่เป็นกระแสนิยม เช่น ใช่มั้งคะ ! แบบว่า! ว้าวดีจังเลย! จ๊าบจริงครับ! เจ๋งเลยครับ! ระวังดี ๆ นะโดยเฉพาะคนที่พูดบ่อย ๆ จนเป็นนิสัยอาจจะหลุดออกมาได้ มือขอให้อยู่เป็นสุขอย่าคุ้ยแคะแกะเกา ระวังให้ดีให้มันอยู่ในที่ที่ควรอยู่ จงใช้เท่าที่จำเป็น ถ้าเป็นการเปลี่ยนงานอย่านินทาว่าร้ายที่ทำงานเดิมของคุณเป็นอันขาด จงชี้แจงสิ่งที่เป็นเหตุผลในการเปลี่ยนงานตามความเป็นจริง
เมื่อการสัมภาษณ์สิ้นสุดลงก็ต้องกล่าวขอบคุณที่ให้โอกาส แม้ว่าการสัมภาษณ์อาจจะไม่เป็นที่พอใจเท่าใดนัก เช่น อาจตอบคำถามไม่ดี หรือมีข้อผิดพลาด พยายามข่มใจไว้ ไหว้งาม ๆ แล้วเดินออกไป อย่าลืมเก็บของเข้าที่ให้เรียบร้อย เช่น โต๊ะ เก้าอี้